Site icon TH foodpanda Magazine

Panda Peeks – รีวิวข้าวแกงกะหรี่ร้าน Gold Curry

Gold Curry Review | foodpanda Magazine

ใกล้เวลาอาหารเที่ยงแล้ว เรากับเพื่อนคุยกันว่าอยากไปทานร้านอาหารอร่อยใหม่ๆที่ไม่ใช่ร้านเดิมๆที่เราเคยทานกันค่ะ พูดแล้วก็นึกขึ้นมาได้ว่าแถวย่านพร้อมพงษ์ ซึ่งไม่ไกลจากออฟฟิศของเรามากนัก มีร้านอาหารอร่อยอยู่ร้านนึงที่ขึ้นชื่อเรื่องแกงกะหรี่ญี่ปุ่นมากๆ แล้ววันนี้เรากับเพื่อนจะลองไปทานร้านนี้ดูค่ะ พอถึงเวลาพักเที่ยงปุ๊ป พวกเราก็เรียกรถแท็กซี่มุ่งหน้าเข้าสู่ซอยสุขุมวิท 39 กันเลย เข้าซอยมาประมาณ 500 เมตร สังเกตุด้านขวามือก็จะเจอร้านสีส้มสดใส ติดโลโก้ร้านเป็นรูปช้างอยู่ในหม้อแกงกะหรี่หม้อใหญ่ พร้อมป้ายภาษาญี่ปุ่นหน้าร้านว่า Gold Curry นั่นแสดงว่าเรามาถึงร้านที่จะทานอาหารเที่ยงกันแล้วหล่ะค่ะ ร้าน Gold Curry นี้เป็นร้านข้าวแกงกะหรี่ญี่ปุ่นสูตรต้นตำหรับแท้ๆเลยนะคะ แค่สังเกตุจากการตกแต่งหน้าร้านและภายในร้านเราก็รู้สึกได้ถึงบรรยากาศของความเป็นญี่ปุ่นแล้วหล่ะ

Gold Curry เปิดให้บริการทุกวันตั้งแต่ 11.00 – 26.00 น.ค่ะ !! งงหล่ะสิ.. ตอนแรกเราก็งงเหมือนกันค่ะ แต่พอลองถามพี่ที่ร้านจึงได้รู้ว่า 26.00 น. นี่หมายถึง ตี 2 (สงสัยจะเป็นการเขียนเวลาแบบญี่ปุ่นนะคะ) ถ้าใครเกิดหิวกลางดึกแล้วไม่รู้ว่าจะไปทานข้าวที่ไหนดี ก็ลองแวะมาที่ร้านนี้ได้คะ เพราะเค้าเปิดจนถึงตี 2 เลยหล่ะ แต่ร้านนี้เค้าเปิดรับออเดอร์สุดท้ายตอนตี 1 ครึ่งนะคะ เผื่อเวลาไว้หน่อยก็ดีค่ะ ใครอยากจะแวะมาเติมพลังในมื้อกลางวันหรือจะแวะมาอิ่มอร่อยในมื้อเย็นหลังเลิกงาน ก็สามารถมานั่งทานนั่งชิลล์กันได้แบบยาวๆเลย

พอเข้ามาในร้านบรรยากาศของร้านตกแต่งด้วยโทนสีส้มดูอบอุ่นและเป็นกันเอง ร้านนี้มี 2 ชั้นค่ะ ชั้นล่างจะมีโต๊ะเล็กๆอยู่ 3-4โต๊ะ และ มีที่นั่งตรงเคาท์เตอร์ที่นั่งได้ประมาณเกือบ 10 คน ถ้ามากันหลายคนก็สามารถขึ้นไปนั่งบนชั้น 2 ของร้านได้ค่ะ พวกเราได้รับการต้อนรับอย่างดีจากพนักงานในร้าน และโชคดีที่วันนี้คุณ Shuhei Gyoda เจ้าของร้านก็อยู่ที่ร้านด้วย เราเลยได้มีโอกาสพูดคุยกับคุณ Gyoda ที่ดูใจดี ยิ้มแย้มแจ่มใส คอยต้อนรับลูกค้าที่เข้ามาทานอาหารที่ร้าน สลับกับการเข้าไปทำอาหารให้ลูกค้าด้วยตัวเอง นี่แหละคือสไตล์ของคนญี่ปุ่นแท้ๆ ที่ไม่ว่าจะทำอะไรก็จะตั้งใจลงมือทำแบบสุดๆไปเลยหล่ะค่ะ ระหว่างที่นั่งรอที่สั่งอาหารอยู่นั้น ก็สังเกตุได้ว่าเริ่มมีคนทะยอยเข้ามาที่ร้านเรื่อยๆค่ะ อาจเพราะเป็นช่วงพักกลางวันด้วย ลูกค้าที่มาทานก็มีทั้งคนไทยและคนญี่ปุ่น ที่แวะเวียนมาอุดหนุนกันอย่างคับคั่งเลยทีเดียวค่ะ

พอได้เมนูแล้ว เราก็เริ่มสั่งอาหารกันเลยค่ะ คุณ Gyoda เจ้าของร้านแนะนำให้ลองเมนูขายดีของทางร้าน 2 เมนูด้วยกัน นั่นคือ ข้าวแกงกะหรี่โกลด์คัตสึ และ ข้าวห่อไข่ราดแกงกะหรี่ ค่ะ การสั่งข้าวแกงกะหรี่ของที่นี่ เราสามารถเลือกขนาดได้ตามปริมาณของข้าวที่เราต้องการ โดยมีตั้งแต่ไซส์เล็กสุด ss (150g) ไปจนถึง ขนาดใหญ่พิเศษ LL (480g) และสามารถเลือกชนิดของแกงกะหรี่ได้ว่าจะเลือกรับเป็นแกงกะหรี่ที่ทำจากหมูหรือเนื้อค่ะ แต่เราไม่สามารถเลือกขนาดความเผ็ดได้นะคะ ความเผ็ดของที่นี้นั้นจะเป็นระดับมาตรฐานต้นตำหรับของแกงกะหรี่ที่ทางคุณ Gyoda แนะนำว่าเป็นสูตรพิเศษเฉพาะของทางร้าน และนอกจากเมนูแนะนำแล้ว ในแต่ละเดือนทางร้านจะออกเมนูใหม่ๆ มาให้ลูกค้าได้ลิ้มลองกันอยู่เรื่อยๆค่ะ อย่างช่วงนี้ก็จะเป็นเมนูข้าวแกงกะหรี่ผัดกะเพรา ซึ่งเป็นเมนูที่ผสมผสานความเป็นไทยและญี่ปุ่นเข้ามาไว้ในจานเดียวกันได้อย่างลงตัวเลยหล่ะค่ะ ใครสนใจก็มาลองทานกันได้นะคะ เห็นว่ามีตั้งแต่ไซส์ปกติไปจนถึงไซส์ใหญ่พิเศษให้เลือกทานกันเลยทีเดียวค่ะ

พูดถึงขนาดของข้าวแกงกะหรี่ของร้านนี้ ต้องบอกว่ามันใหญ่โตมโหฬารจานยักษ์มากกก (ก.ไก่ล้านตัว) ที่กล่าวไปทั้งหมดทั้งมวลนี้ไม่ได้เวอร์แต่อย่างใดนะคะ แต่มันใหญ่โตจริงๆ แล้วที่ร้านก็ยังมีการจัดการแข่งขันกินข้าวแกงกะหรี่ โดยเปิดโอกาสให้ใครก็ได้ที่คิดว่ากินจุ กินเร็ว ได้เข้ามาท้าทายความสามารถกันอยู่ตลอดด้วย โดยการแข่งขันกำหนดไว้ว่าถ้าใครกินหมดจานในเวลาที่กำหนดก็จะได้กินฟรีไปเลย หรือถ้าเป็นเลือกแข่งกินในไซส์ใหญ่พิเศษ แล้วกินหมดได้ในเวลาที่กำหนด ก็จะมีเงินรางวัลให้ตามขนาดที่ใหญ่ขึ้นด้วยหล่ะค่ะ ห๊ะ!! ใช่แล้วค่ะ ได้ยินไม่ผิดหรอก ใครว่าของฟรีและดีไม่มีในโลก แวะมาลองที่นี่เลยค่ะ รับรองว่าได้กินฟรีแถมเงินกลับบ้านไปด้วยอีกต่างหาก โดยมีการกำหนดขนาดจานสำหรับแข่งขันที่เล็กที่สุดอยู่ที่ 2 kg ซึ่งต้องกินให้หมดภายในเวลา 15 นาทีค่ะ ถ้ากินหมดได้ในเวลาที่กำหนดก็กินฟรีกันไปเลย ส่วนขนาดจานแข่งขันที่ใหญ่ที่สุดนั่นคือขนาด 10 kg ค่ะ ถ้าใครทานหมดได้ในเวลาที่กำหนด รับเงินรางวัลไปเลย 40,000 บาท!! ซึ่งจากที่เราสอบถามกับคุณ Gyoda มานั้น ยังไม่เคยมีใครสามารถพิชิตข้าวแกงกะหรี่ขนาด 10 kg ลงได้เลยนะคะ ตอนนี้สถิติสูงสุดที่เคยมีคนทานได้หมดในเวลาที่กำหนดก็คือขนาด 6 Kg เท่านั้นค่ะ เอาเป็นว่าใครที่สนใจอยากลองเข้ามาท้าชิงแชมป์ข้าวแกงกะหรี่ที่ Gold Curry นี้ คุณ Gyoda ก็ยังเปิดรับอยู่เรื่อยๆนะจ๊ะ แต่ถ้าใครสมัครลงแข่งขันแล้ว ทานไม่หมดในเวลาที่กำหนด ก็ต้องจ่ายค่าอาหารกันไปตามราคาที่ทางร้านแปะป้ายไว้เลยค่ะ หรือใครที่อยากจะมาลื้มลองความใหญ่ของข้าวแกงกะหรี่จานยักษ์แบบไม่มีกำหนดเวลาแข่งขันแล้วหล่ะก็ ทางร้านก็ยินดีจำหน่ายให้นะคะ

ในบริเวณรอบๆร้านก็มีการแปะรูปสถิติของผู้ท้าชิงและคนดังที่เคยแวะเวียนมาที่ร้านนี้อยู่เต็มไปหมดเลยค่ะ สังเกตุได้ว่ามีทุกเพศ ทุกวัย ทุกเชื้อชาติจากทั่วโลกเลยก็ว่าได้ สำหรับเราถ้าจะให้ลองทานข้าวแกงกะหรี่จานยักษ์จริงๆแล้วล่ะก็ ต้องขอกลับไปคิดก่อนนะคะ อาจจะต้องเรียกพรรคพวกมาเสริมทัพสัก 2-3 คนมาช่วยกันทานหล่ะงานนี้ ทานคนเดียวคงไม่หมดแน่ๆค่ะ

นั่งชมบรรยากาศของร้านอยู่เพลินๆ เพียงไม่กี่อึดใจ ข้าวแกงกะหรี่ที่เราสั่งไว้ก็มาเสิร์ฟด้วยฝีมือของคุณ Gyoda เจ้าของร้านเองเลยค่ะ นอกจากนี้ ทางร้านยังมีน้ำซุปมิโสะเตรียมไว้ให้ลูกค้าทุกท่านที่มารับประทานอาหารที่ร้านเติมได้ไม่อั้นอีกด้วย เรียกว่าบริการตัวเองกันได้เลยค่ะ เอาหล่ะค่ะ อาหารมาเสิร์ฟถึงที่แล้ว ก็ลงมือทานกันเลยดีกว่า จะชักช้าอยู่ใย อิตาดาคิมัส ทานแล้วนะคะ!!

ข้าวแกงกะหรี่ที่พวกเราสั่งนั้นเป็นขนาดไซส์ S ค่ะ ซึ่งเป็นปริมาณที่ไม่มากจนเกินไปสำหรับผู้หญิงคนนึงที่จะสามารถทานหมดได้แน่นอนและน่าจะอิ่มกำลังดีด้วยค่ะ รสชาติโดยรวมเราให้ผ่านเลยนะ หมูทงคัดสึทอดใหม่ๆไม่อมน้ำมัน ราดด้วยแกงกะหรี่สูตรเฉพาะของทางร้าน รสชาติเข้ากันได้ดีทีเดียวค่ะ ส่วนอีกจานหนึ่งเป็นข้าวแกงกะหรี่ห่อไข่ จานนี้ด้านล่างเป็นข้าวญี่ปุ่นราดด้วยแกงกะหรี่แล้วโปะด้วยไข่เจียวแบบญี่ปุ่น แล้วตบท้ายด้วยการราดซอสมะเขือเทศและมายองเนส ดูน่าทานมากๆ สำหรับเราจานนี้ก็ให้ผ่านอีกเช่นกันค่ะ จะติดอยู่นิดเดียวก็ตรงที่เราเป็นคนชอบทานรสค่อนข้างจัด ก็เลยรู้สึกว่าแกงกะหรี่ที่นี้ไม่ค่อยแซ่บจี้ดจ้าดเท่าที่ควรค่ะ ซึ่งหากเทียบกับอีกร้านหนึ่งซึ่งเราจะสั่งระดับความเผ็ดได้ตามต้องการ ซึ่งร้านนี้จะให้ความรู้สึกเผ็ดร้อนและเข้าถึงความเป็นแกงกะหรี่ได้มากกว่าค่ะ แต่สำหรับคนที่ขอบทานรสจัดอย่างเรา ทางร้านก็มีพริกป่นปาปริก้าเตรียมไว้ให้เราได้ใส่เพิ่มเข้าไปในเมนูที่เราสั่งได้อีกด้วยนะคะ ส่วนเครื่องเคียงที่ขาดไม่ได้เวลาทานข้าวแกงกะหรี่ นั่นก็คือ ผักดองค่ะ ซึ่งทางร้านก็มีเตรียมไว้ให้ที่โต๊ะด้วย เรียกว่าตักกันได้ไม่อั้นตามใจชอบเลยค่ะ นั่งทานกันไปคุยกันไปเพลินๆ เผลอแป๊ปเดียว อาหารที่เราสั่งมาก็หมดเกลี้ยงไปแล้วจ้า

โดยรวมแล้วเราขอให้คะแนนร้านนี้ที่ 8/10 นะคะ มาดูสรุปภาพรวมแต่ละประเด็นกันดังต่อนี้ค่ะ

ปริมาณ – ร้านนี้มีขนาดจานให้เลือกหลายขนาดตามความชอบเลย ซึ่งขนาดจานที่เล็กที่สุดก็ยังรู้สึกว่าอิ่มกำลังดีนะคะ
ความสะอาด – ร้านมีการรักษาความสะอาดอยู่ในเกณฑ์ดีค่ะ ได้มาตรฐานร้านอาหาร ครัวของที่ร้านเป็นครัวแบบเปิด ซึ่งเราจะสามารถเห็นขั้นตอนการเตรียมอาหารได้อย่างชัดเจน จากที่สังเกตุบริเวณในครัวนั้นก็มีการรักษาความสะอาดได้ดีพอสมควรเลยทีเดียวค่ะ
รสชาติ – ข้อนี้ขออนุญาตหักคะแนนจากความเผ็ดของแกงกะหรี่นิดนึงนะคะ รสชาติแกงกะหรี่ออกจะหนักเค็มไปหน่อย แต่หากเราพิจารณาความอร่อยโดยภาพรวมแล้ว ก็ถือว่าทำได้ดีทีเดียวค่ะ เพราะอาหารที่นี่สดใหม่ ทำกันจานต่อจานเลยนะคะ
การบริการ – การบริการก็อยู่ในเกณฑ์ดีค่ะ พนักงานทุกคนยิ้มแย้มแจ่มใสยินดีต้อนรับพร้อมให้บริการลูกค้า ไม่มีหน้าบูดหน้าบึ้งกันให้เห็นแต่อย่างใด หากใครได้มีโอกาสแวะมาทานแล้วบังเอิญเจอเจ้าของร้าน ก็เข้าไปทักทายเค้าได้นะคะ เจ้าของร้านนี้ใจดียิ้มแย้มแจ่มใสเป็นกันเองมากๆค่ะ
ราคา – ด้านราคานั้นก็เหมาะสมกับปริมาณและคุณภาพค่ะ เราไม่ได้รู้สึกว่าแพงจนเกินไปนัก

สุดท้ายแต่ไม่ท้ายสุด หากทานคาวแล้วไม่ทานหวาน มันก็เหมือนจะไม่อิ่มใช่ไหมคะ ทางร้านยังมีไอศกรีมญี่ปุ่นรสชาติต่างๆไว้ให้บริการด้วยเช่นกัน สำหรับใครที่ยังนึกไม่ออกว่าวันนี้จะไปทานเมื้อเที่ยงหรือมื้อเย็นที่ไหนดี ลองแวะมาร้านนี้กันได้นะคะ รับรองว่าอิ่มอร่อย ทานเสร็จมีแรงกลับไปลุยงานต่อได้เลย ใครที่เป็นคออาหารญี่ปุ่นโดยเฉพาะข้าวแกงกะหรี่ญี่ปุ่น ก็ไม่ควรพลาดร้านนี้เป็นอันขาด ไม่เช่นนั้นเราจะถือว่าคุณไม่ได้เป็นคอแกงกะหรี่ตัวจริงนะคะ หากใครอ่านรีวิวนี้แล้วรู้สึกอยากทานข้าวแกงกะหรี่ขึ้นมาแต่ไม่สะดวกที่จะเดินทางมาทานที่ร้าน Gold Curry ก็สามารถสั่งเมนูอาหารเดลิเวอรี่ผ่านเว็บหรือแอ็พพลิเคชั่น foodpanda ได้ง่ายๆเลยหล่ะค่ะ เค้ามีบริการส่งให้ถึงที่ เราไม่ต้องมาถึงที่ร้านก็สามารถนั่งทานอร่อยๆอยู่ที่บ้านหรือออฟฟิศได้เลยนะจะบอกให้

สำหรับเพื่อนๆที่เคยทานอาหารที่ร้าน Gold Curry กันมาแล้ว ก็อย่าลืมมาแชร์ประสบการณ์ของคุณให้เราฟังนะคะว่าอาหารเมนูไหนที่อร่อยโดนใจคุณที่สุด สำหรับวันนี้ต้องขอตัวไปทำงานต่อแล้วหล่ะค่ะ อาทิตย์หน้าเราจะไปรีวิวร้านอร่อยร้านไหนนั้นกันอีกนั้น ต้องคิอยติดตามกันต่อไปนะคะ สำหรับวันนี้ ต้องขอกล่าวคำว่า สวัสดีค่ะ

Reviewed by : #panitaenjoyeating

[youtube https://www.youtube.com/watch?v=A8wernVr1dc]

Gold Curry Sukhumvit 39

ที่อยู่: 39 ถนน สุขุมวิท แขวง คลองตันเหนือ เขต วัฒนา กรุงเทพมหานคร 10110
โทรศัพท์: 02 662 5003
เปิดทำการ: ทุกวัน · 11:00 – 2:00

[googlemaps https://www.google.com/maps/embed?pb=!1m18!1m12!1m3!1d3875.768878686349!2d100.56888431483021!3d13.73243799035994!2m3!1f0!2f0!3f0!3m2!1i1024!2i768!4f13.1!3m3!1m2!1s0x30e29f01da717437%3A0x3ee45a0f2de1926c!2sGold+Curry+Sukhumvit+39!5e0!3m2!1sth!2sth!4v1479202913304&w=600&h=450]

Exit mobile version