สุดสัปดาห์ที่ผ่านมานี้ ผมกับเพื่อนสมัยเรียนได้มีโอกาสนัดพบปะสังสรรค์กันเล็กน้อยที่สยามพารากอน (Siam Paragon) ครับ เพื่อนคนนี้เธอไปเรียนอยู่ที่อเมริกามานาน กลับมาคราวนี้เธอบอกผมว่ามื้อนี้อยากทานอาหารญี่ปุ่นที่ทานง่ายๆ ให้ผมเลือกร้านอร่อยๆมาหนึ่งร้าน ผมเลยถามเธอต่อไปว่า อยากทานเมนูประเภทไหนล่ะ เธอบอกว่าอยากทานเมนูปลาญี่ปุ่นอร่อยๆ พอพูดถึงปลาญี่ปุ่น เราก็นึกขึ้นมาได้ว่าต้องไปที่ร้านนี้เลย ร้าน “Ootoya” (โอโตยะ)
ร้าน Ootoya เป็นร้านอาหารญี่ปุ่นสูตรต้นตำหรับที่เน้นในเรื่องของความใส่ใจในการทำอาหารโดยชูจุดเด่นในเรื่องการทำอาหารด้วยใจราวกับมีคุณแม่คนญี่ปุ่นมาทำให้ทาน ดังสโลแกนที่ว่า “โอโตยะ ปรุงสุดฝีมือ ด้วยหัวใจ แบบฉบับคุณแม่ชาวญี่ปุ่น เพื่อให้คุณสุขภาพดี” หรือ “Japanese Mom-Made Cooking Style” โดยมีความพิถีพิถันใส่ใจในการคัดเลือกส่วนประกอบวัตถุดิบที่จะทำให้คุณทานแล้วสุขภาพดี และที่สำคัญทุกเมนูทำสดใหม่ทุกวันอีกด้วยครับ
ร้านนี้ขึ้นชื่อเรื่องเมนูปลาย่างมาก มีปลาหลากหลายชนิดให้คุณได้เลือกทานกันตามความชอบ เรียกได้ว่าใครเป็นแฟนพันธ์แท้ปลาย่างเข้ามาร้านนี้ไม่มีผิดหวังอย่างแน่นอนครับ ร้านนี้เปิดมาในไทยมานานเกือบ 10 ปีแล้ว หลายๆครั้งที่อยากทานอาหารญี่ปุ่นแล้วนึกเมนูอร่อยๆไม่ออก ก็มักจะเดินเข้ามาที่ร้านนี้อยู่เป็นประจำครับ เมนูที่สั่งบ่อยๆก็จะเป็นเมนูปลาย่างต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น ปลาแซลมอน, ปลาซาบะ, ปลาอาจิ, ปลามากุโระ, ปลาชิมาฮอกเกะ และปลาญี่ปุ่นชนิดอื่นๆอีกมากมาย นอกจากเมนูปลาแล้ว ก็ยังมีเมนูไก่และหมูอื่นๆให้เลือกทานกันได้ตามใจชอบเลยครับ ไหนๆวันนี้มาถึงร้านที่ขึ้นชื่อเรื่องเมนูปลาย่างแล้ว เราคงต้องจัดมาทานกันซักหน่อยแล้วล่ะ
มาถึงร้านญี่ปุ่นทั้งที เราก็ต้องสั่งเครื่องดื่มแบบญี่ปุ่นๆมาดื่มกันใช่ไหมครับ มื้อนี้เราเลือกสั่ง น้ำเต้าหู้ในน้ำเชื่อมคุโรมิสึ มาดื่มเข้าคู่กับอาหารมื้ออร่อยของเราครับ เค้าแยกน้ำเชื่อมคุโรมิสึใส่กาเล็กๆมาให้เราเลือกเติมระดับความหวานเอาเองตามใจชอบเลย ร้านนี้เค้าต้มถั่วเหลืองเพื่อทำน้ำเต้าหู้ใหม่ทุกวันนะครับ ดังนั้นเรามั่นใจได้ว่าทุกเมนูเต้าฮู้ของที่นี่จึงสดใหม่ได้คุณค่าทางอาหารครบถ้วนครับ อ้อ! ถ้าเราสั่งอาหารแบบเป็นชุดที่มีข้าวอยู่ในเมนูนั้นด้วยแล้ว หลังจากที่เราทานข้าวถ้วยแรกหมด เราสามารถขอเติมข้าวถ้วยต่อไปได้ฟรีนะครับ มีทั้งเป็นข้าวขาวปกติและแบบที่เป็นข้าวธัญพืชครับ น้ำชาเขียวทั้งแบบร้อนและเย็นก็สามารถเติมได้ฟรีอีกด้วย ทั้งข้าวและน้ำเติมได้ไม่อั้น เรียกได้ว่าเข้ามาร้านนี้แล้วไม่ต้องกลัวว่าจะไม่อิ่มครับ งานนี้สบายหายห่วง
เมนูเด็ดจานแรกที่เราเลือกสั่งมาทานกันในวันนี้ คือ ปลาแซลมอนย่างถ่าน ครับ เสิร์ฟมาพร้อมข้าวญี่ปุ่นร้อนๆและหัวไชเท้าฝนสดๆ ที่ร้านนี้จะฝนหัวไชเท้าใหม่ทุกครั้งที่สั่งครับ เพราะหัวไชเท้าที่ฝนใหม่ๆจะมีสารอาหารและวิตามินซีสูง ทานแล้วจึงมีประโยชน์ต่อร่างกายมากกว่าครับ เมนูปลาย่างของที่นี่ทุกเมนูจะมีความอร่อยที่เป็นเอกลักษณ์ เพราะเค้าย่างโดยใช้ถ่านไม้ยูคาลิปตัส ทำให้เนื้อที่ย่างสุกมานั้นมีความหอมและมีสีสันที่สวยงามน่ารับประทานครับ แซลมอนจานนี้ก็เช่นกัน เนื้อแซลมอนย่างสุกกำลังดี มีความกรอบนอกนุ่มใน เนื้อก็สดใหม่ไม่เหม็นคาวด้วย เหยาะโชยุนิดๆ จิ้มวาซาบิหน่อยๆ อร่อยอย่าบอกใครเลยจานนี้
เมนูต่อมา คือ ไก่ผัดซอสคุโรสุ ครับ เมนูนี้เป็นเมนูยอดฮิตที่ขายดีมากที่ประเทศญี่ปุ่นเลยนะครับ ที่ประเทศไทยเราก็ขายดีไม่แพ้กันครับ ไก่ที่นำมาผัดเป็นเนื้อส่วนอกและสะโพกผสมกัน ส่วนซอสคุโรสุของโอโตยะที่นำมาผัดนี้ทำจากน้ำส้มสายชูหมักสูตรพิเศษ จึงได้ซอสที่มีรสชาติเปรี้ยวอมหวานกลมกล่อม และมีกรดอะมิโนสูงช่วยกระตุ้นการเผาผลาญของร่างกายได้ดี เรียกได้ว่าอร่อยแถมยังมีประโยชน์อีกด้วย
เมนูต่อมาที่ถูกยกมาเสิร์ฟ ก็คือ สลัดปลามากุโระ ครับ เมนูนี้ทำจากปลาทูน่าสด นำมาคลุกเคล้ากับซอสโชยุผสมงาบดและวาซาบิเพื่อเพิ่มรสชาติความอร่อยให้เข้าถึงเนื้อปลามากยิ่งขึ้น เสิร์ฟมาพร้อมกับผักสลัดสดๆ จานนี้เพื่อนผมชอบมากเป็นพิเศษเพราะเธอชอบทานอาหารคลีนอยู่แล้วด้วย อาหารจานนี้จึงถูกปากเธอเป็นพิเศษ ทานคู่กับแซลมอนย่างถ่านยิ่งอร่อยคูณสองเลยครับจานนี้
เมนูต่อมา คือ คัตสึโทจิ ครับ เมนูนี้ทำจากเนื้อหมูสันนอกอย่างดีคลุกกับเกล็ดขนมปังทอด แล้วเอามาต้มในน้ำซอสสูตรพิเศษครับ เนื้อหมูนุ่มมาก ส่วนน้ำซอสรสชาติหวานกลมกล่อมจากหอมหัวใหญ่ ราดด้วยไข่ไก่ ทานคู่กับไก่ผัดซอสคุโรสุกับข้าวธัญพืชร้อนๆ อร่อยเหาะไปเลยครับ
ทานของคาวกันไปแล้ว จะขาดของหวานได้อย่างไร 555 มื้อนี้เราสั่งของหวานมา 2 เมนู คือ วาราบิโมจิกับไอศกรีม และ ไอศกรีมชาเขียวในน้ำเต้าหู้ ครับ เมนูแรก “วาราบิโมจิกับไอศกรีม” เป็นการนำเอาขนมพื้นบ้านของญี่ปุ่นคือวาราบิโมจิ ซึ่งเป็นแป้งโมจิชนิดหนึ่งที่โรยด้วยผงคินาโกะหรือผงถั่วเหลืองมาทานเข้าคู่กับไอศกรีม อีกทั้งยังมีถั่วแดงบดใส่มาในเมนูนี้ด้วย เลยทำให้เมนูนี้เพิ่มความอร่อยมากยิ่งขึ้นไปอีก เรียกได้ว่าเป็นการฟิวชั่นขนมพื้นบ้านญี่ปุ่นกับไอศกรีมที่ลงตัวมากๆครับ ส่วนอีกเมนูหนึ่งก็คือ “ไอศกรีมชาเขียวในน้ำเต้าหู้” ซึ่งประกอบไปด้วยถั่วแดงบด, โมจิ, และวุ้นชาเขียว เสิร์ฟมาคู่กับน้ำเชื่อมคุโรมิสึเพื่อให้เราเพิ่มความหวานได้ตามใจชอบเลย ไม่น่าเชื่อว่าขนมญี่ปุ่นต่างๆที่ใส่มาในเมนูนี้นั้น จะอร่อยเข้ากันได้เป็นอย่างดีกับน้ำเต้าหู้แบบลงตัวมากๆครับ แอบติดใจเมนูนี้อยู่ไม่น้อย ถ้ามีโอกาสได้มา Ootoya อีกในครั้งหน้า คงต้องสั่งมาทานอีกซะแล้วล่ะครับ ไม่พลาดแน่ๆเมนูนี้
สำหรับใครที่อ่านรีวิวนี้จบแล้วเกิดอยากทานอาหารจาก Ootoya ขึ้นมา แต่ไม่สะดวกเดินทางไปทานที่ร้าน เค้าก็มีบริการเดลิเวอรี่ผ่านแอ็พ foodpanda ให้เราสั่งไปทานกันถึงที่บ้านหรือที่ทำงานได้ง่ายๆเลยนะครับ สำหรับใครที่เคยทานเมนูอร่อยจากร้านนี้ที่คิดว่าเป็น Perfect Match ของคุณแล้วล่ะก็ อย่าลืมมาแชร์ให้เราฟังด้วยนะครับ สำหรับวันนี้ผมและเพื่อนคงต้องขอตัวแต่เพียงเท่านี้ก่อน ครั้งหน้าเราจะพาคุณไปรีวิวต่อที่ร้านไหน ต้องคอยติดตามกันต่อไปนะครับ สำหรับวันนี้ต้องขอกล่าวคำว่า ซาโยนาระ ลาก่อนล่ะครับผม 🙂
สั่งเมนู Ootoya Delivery ตอนนี้ คลิก!
[youtube https://www.youtube.com/watch?v=T_AQ2_nJooQ]
Ootoya (Siam Paragon)
ที่อยู่: สยามพารากอน G99 อาคาร สยามพารากอน ชั้นG ถนน พระรามที่ 1 แขวง ปทุมวัน เขต ปทุมวัน กรุงเทพมหานคร 10330
โทรศัพท์: 02 160 7521
เปิดบริการ: ทุกวัน · 10:00–22:00
[googlemaps https://www.google.com/maps/embed?pb=!1m14!1m8!1m3!1d15502.151877417844!2d100.5341486!3d13.7463996!3m2!1i1024!2i768!4f13.1!3m3!1m2!1s0x0%3A0x2ab02a2a34444567!2sOotoya+(Siam+Paragon)!5e0!3m2!1sth!2sth!4v1479358976638&w=600&h=450]
Thomp is the online marketing people who loves eating as well as travelling. He loves to write about food and travel in his free time. Moreover, he aims to travel and eat delicious menus through all continents around the world and create one Youtube Channel to share his experiences to those who love to eat internationally.